เรียนอย่างไรให้เก่ง…ที่นี่มีคำตอบ!!

UploadImage

           หลักการที่สำคัญที่สุด คุมตัวของคุณเองให้ได้อย่างที่ต้องการจะเป็นแพ้ชนะอยู่ที่การสู้กับตัวเอง มิใช่สู้กับคนอื่นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะขาดไม่ได้ ความขยันอันไม่มีอะไรจะหยุดได้ทฤษฎีบท ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่สำเร็จมิได้ด้วยความเพียร สิ่งที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้ เป็นหลักการควบคุมตัวเองทั้งสิ้น ลองด้วยตัวคุณเองแล้วจะรู้ว่า ผมไม่ได้โกหกคุณเลย (ถ้าคุณทำตามที่ผมว่ามาได้นะ ……..ต้องได้ซิถ้าคุณจะทำจริง ๆ  เพราะผมก็ทำมาแล้ว ….)
มองขั้นตอนทั้งหมดสรุปย่อโดยรวม

  1. ควบคุมภาวะการหลับและการตื่นได้ดั่งใจ
  2. ออกกำลังสม่ำเสมอ เพื่อพลังกายที่สมบูรณ์แบบ
  3. อ่านหนังสือทุกวัน วันละ 2 ชม.(หรือตามที่คิดว่าเหมาะสมกับคุณ)
  4. นั่งสมาธิและทบทวนก่อนนอน และ ตื่นนอนทุกวัน

คำอธิบายในแต่ละขั้นตอน และ รายละเอียดปลีกย่อย

1. คุมเวลาตื่นนอนให้ได้ทุกวันก่อนครับ.เช่น ตื่น 6 โมงเช้านอน 4 ทุ่ม ซัก 1 เดือนติดต่อกันให้ได้ก่อนค่อยมาว่าจะอ่านหนังสือครับ. เพราะจะเป็นการจัดระบบมันสมองใด้อย่างดีเยี่ยมและจะรู้สึกว่าสมองมีพลังในการรับรู้ครับ. ถ้าทำข้อนี้ไม่ได้ อย่าคิดว่าจะเรียนให้ดีได้ยากครับ.

2. หลักการอ่านหนังสือใด ๆ ไม่จำเป็นต้องอ่านทีละนาน ๆ ครับ. เช่นตั้งไว้ว่า วันนึง เราจะ อ่านซัก 1 – 2 ชม.ก็เกินพอครับ. แต่สำคัญอยู่ที่ความต่อเนื่องครับ. ถ้ายังบังคับตัวเองไม่อยู่ ข้อ 1. ก็เป็นการฝึกบังคับอย่างนึงแล้ว ต้องอ่านทุกวัน ไม่มีวันหยุดครับ.

UploadImage

3. ที่ว่า 1 -2 ชม.นั้นต้องรู้ว่าตัวเองเราสามารถรับได้ครั้งละเท่าไรครับ. อย่างเช่นพี่จะ อ่านวันละ 2 ชม. แต่แบ่ง เป็น 4 ยกครับ. ครั้งละ 25 – 30 นาทีและพัก 5- 10 นาที

4. อ่านจบวันนึง ๆ ต้องมีสรุปแบบเล่มยาว ๆ เลยนะครับ. สรุปสั้น ๆ ว่าวันนี้ได้อะไรบ้าง สูตรอะไร ๆ หรือความเข้าใจอะไร

5. ถึงตอนนอนให้นั่งสมาธิซัก 5 นาทีพอรู้สึกใจเริ่มนิ่ง ให้นึกที่เราสรุปไว้ เมื่อกี๊ครับ. ถ้านึกไม่ออกแสดงว่าสมาธิตอนอ่านหนังสือไม่ดีให้เปิดไฟ ลุกออกไปดูที่สรุปใหม่ แล้วนึกใหม่ครับ.

6. ต้องรู้วิธีเรียนในแต่ละวิชาครับ. เช่น คณิต + ฟิสิกส์ เน้นความเข้าใจเป็นอันดับ 1 เคมี เน้น เข้าใจ + ท่องจำบางอย่าง เช่น ตารางธาตุ ถ้าท่องยังไม่ได้แสดงว่าไม่เข้าใจว่ามันจำเป็นต้องจำอังกฤษ เป็นเรื่องทักษะ ต้องใช้บ่อย ๆ ครับ. เวลาจะทำอะไรก็นึกเป็นภาษาอังกฤษบ้าง เช่นนึกจะทักเพื่อนว่าไปไหน ก็นึกว่า where do you go .? อะไรเป็นต้น แล้วก็ต้องเข้าใจ เป็นภาษาต่างด้าวยังมีคำหรือสำนวนที่เราไม่เข้าใจอีกเยอะ ดังนั้นเรื่องศัพท์ต้องรู้เยอะ ๆ เวลาจะไปดูหนัง Entertain กันทั้งที ก็เลือกดูเรื่องที่เขามีแต่ sub title เป็นภาษาอังกฤษ

UploadImage

7. วิธีเรียนพวกวิชาที่ใช้ความเข้าใจอันดับแรกต้องรีบศึกษาเนื้อหาทั้งหมดให้จบอย่างรวดเร็วครับ. ถามว่าอ่านจากไหน อย่ามองไกลครับ. แบบเรียนนั่นล่ะ อย่าเพิ่งไปมองพวกคู่มือ ถ้าเราอ่านแบบเรียนไม่รู้เรื่อง ก็อย่าไปหวังจะดูตำราอื่นเลยครับ. จากนั้นให้รีบหา แบบฝึกหัด มาทำในแบบเรียนนั่นล่ะให้ได้หมดก่อน จากนั้นค่อย เสาะหาตำราคู่มือที่คิดว่าเราดี อ่านแล้วเข้าใจอีกซักเล่มนึงมา อ่านเนื้อหาให้หมด อีกที แล้วทำแบบฝึกหัดในเล่มนั้นให้จบหมด . สำคัญคือความตั้งใจนะครับ. ต้องเข้าใจว่าเรา มีความรู้ในบทนั้น ๆ จบแล้วทำไมยังทำโจทย์บางข้อไม่ได้ พยายามคิด สุดท้ายไม่ออก ก็ดูเฉลย แล้วต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าเราโง่ตรงไหน ทำไมทำไม่ได้
โจทย์ข้อนั้น ๆ เป็นเทคนิคเฉพาะหรือเปล่าต่อไป ก็เสาะหาพวกข้อสอบต่าง ๆ มาให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว ก็ ทำ ๆ ๆ จนเกิดรู้สึกว่าบรรลุ !!! ในเรื่องนั้น ๆ มันเป็นความรู้สึกคล้าย ๆ สำเร็จเป็นผู้วิเศษอะไรทำนองนั้น หรือฝึกวิทยายุทธสำเร็จแบบนั้นมองโจทย์ปุ๊บ จะเกิดความคิด แปร๊บ ๆ ขึ้นมานึกออกทะลุหมด เมื่อนั้นรู้สึกแบบนี้เมื่อไร ให้รีบสรุปเนื้อหาบทนั้น ๆ ออกมาในกระดาษขนาดประมาณ 2.5 นิ้ว คูณ 4 – 5 นิ้วครับ. ใช้หน้าหลังเขียนให้พอให้ได้ใน 1 บทต่อ 1 แผ่น อาจจะมียกเว้นบางบท เช่น สถิติ อาจใช้ถึง 6 แผ่น หรือตรีโกณ 3 แผ่น ส่วนใหญ่ไม่เกินหรอกครับ. จากนั้นปาตำราบทนั้น ๆ ทิ้งไปเลยครับ

8. สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำอะไรก็ตามที่คือ ต้องมีความรู้ติดสมอง สามารถหยิบมาใช้การได้ทันทีครับ. ถ้าคิดจะเรียนเพื่อสอบนั่นก็แสดงว่า กำลังคิดผิดอย่างใหญ่หลวงครับ. เด็กสมัยใหมนี้ชอบคิดว่าเรียน ๆ ไปเพื่อสอบ สอบเสร็จก็เลิกนั่นเป็นเพราะผลพวงของระบบ แข่งในการศึกษาของไทยเราครับ. เด็กต้องสอบ Entrance เข้าต่อ ทำให้ไม่เกิดความรู้สึกในการใฝ่รู้ต้องเข้าใจว่าเราเรียนหนังสือนี่ ต้องถือว่าไม่มีใครมาบังคับเราเราเรียนเพื่อตัวเราเอง เพื่อพัมนาสมองเราเอง พัฒนา มุมมองความคิดต่าง ๆ เพื่อให้เราเป็นยอดคนเอง สามารถที่จะพึ่งตัวเองได้ทุกเมื่อไม่ว่าจะยังอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองหรือหลุดจากอ้อมแขนบิดามารดาเมื่อไร ต้องสามารถที่จะกล้าคิดและทำ พึ่งตัวเองยังชีพตัวองในสังคมนี้ได้ครับ. ดังนั้น จากข้อ 7. เราต้องบันทึกความรู้ที่เรารู้แล้ว ให้เป็นความรู้ยาวนานติดสมองโดยทำดังต่อไปนี้ครับ. – ให้นึก ! โน๊ตย่อที่เราสรุปเอง อาทิตย์ละหน ติดต่อกันซัก 1 เดือนหรือ 4 อาทิตย์นึกนะครับ . ไม่ใช่เปิดดูถ้านึกไม่ออก แสดงว่าไม่ได้สรุปเองแล้วล่ะเปิดหนังสือ แล้วสรุปตามแหง ๆ จากนั้นให้ทิ้งห่างเป็น นึก 1 เดือนต่อครั้ง จนเริ่มรู้สึกเบื่อ เพราะนึกทะลุปรุโปร่งหมดแล้วให้เลิกครับ. ใกล้สอบค่อยว่ากันอีกทีกระบวนการที่ว่านึกตั้งแต่ 1 อาทิตยืจนเลิกนึกนี่คาดว่าไม่ตำกว่า 3 เดือนนะครับ. ใครน้อยกว่านี้ แสดงว่าโกหกตัวเองชัวร์

UploadImage

9. กระบวนการสุดท้าย เป็นการเพิ่มพลังความมั่นใจในตัวเองซึ่งต้องกระทำติดต่อกันบ่อยๆ เรื่อย คือกระบวนการสอบแข่งขันครับ. ตรงนี้สำคัญมาก ถ้าเป็นไปได้สอบแข่งซะแต่ ม.1 จนจบ ม.6 เลย จะทำให้เรารู้อันดับตัวเอง

เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ ครับ. เช่นเราอาจจะเรียนได้เกรดดี แต่พอสอบแข่ง จริง ๆล่ะ สู้เขาได้ใหมทักษะในการทำข้อสอบ มีใหม เข้าห้องก็เดินหน้าลุยทำแต่ข้อแรกยันข้อสุดท้ายเลยหรือเปล่า ก็พวก สมาคม โอลิมปิก หรืออะไรก็ตามที ทั้งสอบแข่งในโรงเรียน เช่น โรงเรียนจัดเอง หรือสัปดาห์ต่าง เช่น สัปดาห์วันวิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ โคงงงานวิทยาศาตร์ ตอบปัญหาภาษาไทย อังกฤษ ฯลฯ สุดท้ายทั้งหมดที่ว่ามา ถ้าน้องคนไหนทำได้นะครับ. ซัก 1-2 ปี รู้ผลแน่พี่รับรองได้ 100 % เลยว่าอย่างน้อยต้องอยู่ในอันดับ 1 – 3 ของชั้นแน่นอน อันดับระดับประเทศ ก็ไม่เกิน 50 อย่างมาก อ้อ ลืมบอกไปครับ. สิ่งสำคัญคือการอ่านล่วงหน้าครับ.

ช่วงปิดเทอม ก็อ่านของเทอมหน้านู้นหรือ อยู่ ม.4 จะอ่านของ ม.6
ก็ได้นะไม่ผิด

ที่มา : dek-d

10 สิ่งที่คนในปัจจุบันขาดไม่ได้

10 สิ่งที่คนในปัจจุบันขาดไม่ได้
การใช้ชีวิตของคนเราในปัจจุบัน ล้วนจะต้องมีปัจจัยสำคัญหรือสิ่งที่จำเป็นต่อคนเราในชีวิตประจำวันที่จะเป็น นอกจากปัจจัย 4 ประการที่คนเราต้องมีในการดำรงชีวิต
แต่คุณจะรู้ไหมคะว่า ยังมีอีกหลายสิ่งที่สำคัญกับเราในการดำรงชีวิต ดังนั้น ทีมงาน toptenthailand ขอนำเสนอ 10 สิ่งที่คนในปัจจุบันขาดไม่ได้
10.อาหาร
ภาพประกอบ: trendzap.com

อาหารถือว่าเป็นปัจจัย 4 อย่างที่สำคัญต่อชีวิตคนเรามากนะคะ เพราะการเจริญเติบโตของร่างกายคนเราจำเป็นจะต้องมีส่วนของอาหารเข้ามาเกี่ยว ข้อง ดังนั้น อาหารจึงถือว่าเป็นสิ่งที่คนเราขาดไม่ได้อย่างแน่นอนค่ะ แต่ทางทีมงาน toptenthailand ขอแนะนำว่า ควรรับประทานอาหารที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าให้โทษต่อร่างกายนะคะ

9.ยารักษาโรค

ลองคิดดูนะคะว่าถ้าโลกนี้คนเราเป็นโรคหรือ ป่วยกันมากขึ้น แล้วไม่มียามารักษาโรคที่เราเป็นกัน ไม่ว่าจะป่วยเล็กๆ น้อยๆ หรือป่วยหนัก ประเทศไทยคงมีคนล้มตายมากกว่านี้เป็น 2 เท่า ดังนั้นยาจึงสำคัญกับชีวิตของคนเรามากนะคะ

ยกให้เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่ไม่ว่า อายุรุ่นไหนก็เล่นกัน ที่เรียกกันว่า Social Network ที่ใครๆ หลายคนเกิดอาการติดอย่างรุนแรง ซึ่งทีมงาน toptenthailand ก็ขอยอมรับค่ะว่า เป็นหนึ่งคนที่กำลังติด facebook แต่ขอเตือนว่า facebook มีทั้งข้อดีและข้อเสียนะคะ

7.ข่าวสาร

เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันเพราะ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของบ้านเมือง หรือสิ่งที่เราอยากรู้ เพราะเราจะได้รับรู้ข่าวสารมากมายไม่เว้นแต่แต่ละวัน บางทีทางทีมงาน toptenthailand ก็อยากจะให้คนที่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองควรพิจารณาว่าข่าวไหนเป็นเรื่องจริง หรือว่าเป็นเรื่องเท็จ

6.จิตใจอันเข้มแข็ง

เราล้วนจะต้องมีเรื่องที่เข้ามารบกวนจิตใจ หรือมีเรื่องมาทำให้เราไม่สบายใจ หรือบางครั้งเรื่องที่เข้ามาทำให้เราถึงกับท้อแท้หมดกำลังใจกันเลยในทีเดียว แต่เชื่อเถอะค่ะว่า ถ้าเรามีจิตใจที่เข้มแข็งเราก็จะสามารถเรื่องราวหรืออุปสรรคที่ทำให้เราผิด หวังหรือเสียใจไปได้ด้วยดีค่ะ ขอแค่เรามีจิตใจที่เข้มแข็งนะคะ

5.การศึกษา

หลายๆ คนเคยอาจจะได้ยินในตอนสมัยเด็กๆนะคะ กับคำที่พ่อแม่พูดเสมอว่า ต้องเรียนให้จบหรือเรียนให้สูง โตขึ้นมาจะได้มีงานทำดีๆ เป็นเจ้านายคนได้ และหลายคนก็จบได้อย่างที่พ่อแม่สั่งสอนมา ดังนั้นการศึกษาจึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราไม่สามารถขาดมันได้นะคะ

4.เสื้อผ้า

เสื้อผ้าถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเพราะ ว่า ในการใช้ชีวิตของคนเรา จำเป็นต้องมีเสื้อผ้าเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าคุณจะทำอะไรยังต้องมีเสื้อผ้าเข้ามาเกี่ยวข้องนะคะ

3.อินเทอร์เน็ต

อย่างที่เคยบอกไปว่าตอนนี้คุณทุกคนก็ได้รู้ แล้วว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีได้ก้าวกระโดดไปไกลเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของอินเทอร์เน็ต ที่ไม่ว่าบ้านไหนหรือใครหลายๆ คนก็ต้องใช้กัน บ้างด้วยการใช้ติดต่อสื่อสาร หาความรู้ หรือหาความเพลิดเพลินให้กับตัวเอง ดังนั้นเทคโนโลยีทางด้านอินเทอร์เน็ตจึงสำคัญต่อชีวิตของคนเรามากค่ะ

2.เงิน

เงินถือว่าอยู่ในปัจจัย 4 ประการ ซึ่งเงินก็สำคัญกับคนเราเป็นอย่างมากนะคะ เพราะว่า ส่วนใหญ่การที่จะหาความสุขหรือหาสิ่งที่เราต้องการมักจะต้องใช้เงินเป็นสื่อ กลางในการซื้อขาย หรือแลกเปลี่ยนระหว่างกันนะคะ

1.โทรศัพท์

โทรศัพท์เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคนเรา เลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะโทรศัพท์เป็นสื่อกลางตัวสำคัญที่จะใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน และอีกอย่างคุณจะเห็นได้ว่า ในโลกสังคมออนไลน์ตอนนี้ เทคโนโลยีทางด้านโทรศัพท์ได้พัฒนาไปไกล จึงทำให้ทุกคนนั้นขาดไม่ได้ ในการดำรงชีวิตในประจำวัน

 

ที่มา

http://hitech.sanook.com/1388122/10-สิ่งที่คนในปัจจุบันขาดไม่ได้/

เคล็ดลับ 13 ประการเพื่อการเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ

เคล็ดลับ 13 ประการเพื่อการเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ

วางแผนสำหรับเปิดเทอมใหม่ เพื่อเป้าหมายดีๆ ในอนาคต เริ่มตอนนี้ไม่มีวันสายเกินไปแน่นอนจ้า

1. รับผิดชอบ
– รับผิดชอบตนเอง ไม่ยืมจมูกคนอื่นหายใจ เป็นผู้ชนะจากความสามารถของตน

2. เริ่มต้นดี
  – ช่วงเดือนแรกในรั้วมหาวิทยาลัย ถือเป็นช่วงวิกฤตของน้องใหม่ หากเริ่มต้นดี ความสำเร็วจะไม่อยู่ไกลเกินเอื้อม

3. กำหนดเป้าหมายในการเรียนอย่างแน่วแน่
  – กำหนดเป้าหมายในการเรียนให้ชัดเจน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว และทุ่มเทความพยายามให้บรรลุเป้าหมายนั้น

4. วางแผน และจัดการ
– มีการวางแผน จัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมที่ต้องทำ หากทำตารางเวลาเป็นรายสัปดาห์ได้ยิ่งดี

5. มีวินัยต่อตนเอง
  – เมื่อกำหนดเป้าหมาย วางแผน และจัดการ ตามข้อ 4 และ 5 แล้วต้องสัญญากับตนเองอย่างแน่วแน่ที่จะมีวินัย และปฏิบัติตาม

6. อย่าล้าสมัย
– วิทยาการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว การค้นคว้าหาความรู้ ต้องอิงกับข้อมูลที่ทันสมัย ทันเหตุการณ์

7. ฝึกฝนตนเองให้เรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
– ศึกษาข้อเสนอแนะในคู่มือเล่มนี้ และฝึกทักษะการเรียนรู้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ติดตัวตลอดไป

8. เตรียมพร้อมเพื่อเข้าสู่ชั้นเรียน
– เตรียมตัวเป็นผู้ใฝ่หาความรู้อย่างแข็งขัน หากเป็นไปได้เตรียมอ่านเอกสารที่จะเรียนมาก่อนเข้าห้องเรียน

9. มุ่งมั้น จดจ่อต่อบทเรียน
– มีสมาธิ สนใจ ตั้งใจ เวลาอาจารย์สอน ไม่เข้าเรียนเพื่อพูดคุยกัน ซังกะตาม รอเวลาเลิกชั้น

10. เป็นตัวของตัวเอง
– รู้จักคิดและทำ ด้วยความสามารถของตนเองคิดเสมอว่าเราเป็นผู้หนึ่งที่มีศักยภาพสูง

 11. มีความกระตือรือล้น
– ความสำเร็จเป็นของผู้ที่มีความริเริ่ม เป็นฝ่ายรุกที่จะมุ่งหน้า และคว้าความสำเร็จเป็นของตน

12. มีสุขภาพดี
– อย่าลืมใส่ใจต่อสุขภาพร่างกาย กิจกรรมนันทนาการ และกิจกรรมสังคม วางแผนจัดเวลาต่อสิ่งเหล่านี้ให้พอเหมาะ

13. เรียนอย่างมีความสุข
– พยายามเก็บเกี่ยวความน่าสนใจในบทเรียน คิดเสมอว่าทุกวิชาน่าเรียนรู้ น่าสนุกทั้งนั้น แล้วท่านจะพบว่า เราก็เรียนอย่างมีความสุขได้

ที่มา : http://webboard.yenta4.com/topic/211548